W.Edwards Deming
เกิดปี ค.ศ.1900
จบปริญญาเอก
สาขา Mathematical Physics ( ฟิสิกส์คณิตศาสตร์
จากมหาวิทยาลัยเยล)ค.ศ.
1928 เริ่มทำงานให้กับรัฐบาลอเมริกัน ในสำนักมะโนประชากร
และเป็นผู้เชี่ยวชาญด้าน เทคนิคในการสุ่มตัวอย่างโดยวิธีการทางสถิติ (Statistical
Sampling) มีความสนใจในงานของ Walter Shewhart ซึ่งเป็นนักสถิติ
Deming เชื่อว่า
หลักการของ Shewhart นั้น น่าจะสามารถนำมาประยุกต์เข้ากับกระบวนการด้านอุตสาหกรรม
การผลิตได้ด้วยเช่นกัน
ปี ค.ศ. 1940 Deming เริ่มนำความคิดของ Shewhart มาใช้กับงานของเขา
โดยการนำกระบวนการทางสถิติเข้ามาช่วยในการควบคุม (Statestical Process
Control) ซึ่งพบว่าในกระบวนการขั้นตอนบางอย่างนั้นมีผลดีกว่าเดิมถึง 6 เท่า
ค.ศ. 1943 เขาได้ตีพิมพ์หนังสือเชิงเทคนิคเรื่อง "Statistical
Adjustment of Data"
การสอนและงานของ Deming ได้ขยายวงกว้างออกไปไกลจากหลักการทางสถิติมาก
เขาชี้ให้ชาวญี่ปุ่นปรับปรุงวิธีการแก้ไขปัญหาอย่างเป็นระบบ
ซึ่งต่อมาได้กลายเป็นวงจรของ Deming หรือ (Plan, Do, Check and Action)
PDCA เป็นแนวคิดหนึ่ง ที่ไม่ได้ให้ความสำคัญเพียงแค่การวางแผน
แต่แนวคิดนี้เน้นให้การดำเนินงานเป็นไปอย่างมีระบบ
โดยมีเป้าหมายให้เกิดการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง แนวคิด PDCA ได้รับการพัฒนาขึ้นเป็นครั้งแรกโดย
Walter Shewhart ซึ่งถือเป็นผู้บุกเบิกการใช้สถิติสำหรับวงการอุตสาหกรรม และต่อมาวงจร PDCA
ได้เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลาย
มากขึ้น เมื่อปรมาจารย์ด้านการบริหารคุณภาพ อย่าง W.Edwards Deming ได้นำมาเผยแพร่
ให้เป็นเครื่องมือสำหรับการปรับปรุงกระบวนการ วงจรนี้จึงมีอีกชื่อหนึ่งว่า “Deming
Cycle”
มาถึงวันนี้คงไม่มีใครบอกว่าไม่รู้จักวงจร PDCA หรือ Deming
Cycle โดยเฉพาะในแวดวงของการทำงาน มักจะมีการนำ PDCA เข้ามาประยุกต์ใช้ทั้งการทำงานประจำ
และการปรับปรุงงานโครงสร้างของ PDCA ประกอบด้วย1) Plan คือ การวางแผน2) DO คือ การปฏิบัติตามแผน3) Check คือ การตรวจสอบ4) Act คือ การปรับปรุงการดำเนินการอย่างเหมาะสม หรือ การจัดทำมาตรฐานใหม่
ซึ่งถือเป็นพื้นฐานของการยกระดับคุณภาพ ทุกครั้งที่การดำเนินงานตามวงจร PDCA หมุนครบรอบ
ก็จะเป็นแรงส่งสำหรับการดำเนินงานในรอบต่อไป
และก่อให้เกิดการปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง ดังแสดงใน ภาพที่ 1
Deming Cycle
จากหลักการของวงจร PDCA หากพิจารณาเทียบกับหลายๆ เครื่องมือ หรือเทคนิคการปรับปรุงงานต่างๆ ที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็น เครื่องมือด้านคุณภาพอย่าง QCC เครื่องมือที่ต้องใช้การวิเคราะห์ด้วยสถิติขั้นสูง อย่าง Six Sigma หรือแม้แต่เครื่องมือที่เน้นเรื่องของการจัดการความรู้อย่าง KM พบว่า ล้วนมีพื้นฐานของแนวคิด PDCA ทั้งสิ้น ดังแสดงในภาพที่ 2
ปี ค.ศ. 1940 Deming เริ่มนำความคิดของ Shewhart มาใช้กับงานของเขา โดยการนำกระบวนการทางสถิติเข้ามาช่วยในการควบคุม (Statestical Process Control) ซึ่งพบว่าในกระบวนการขั้นตอนบางอย่างนั้นมีผลดีกว่าเดิมถึง 6 เท่า
ค.ศ. 1943 เขาได้ตีพิมพ์หนังสือเชิงเทคนิคเรื่อง "Statistical Adjustment of Data"
การสอนและงานของ Deming ได้ขยายวงกว้างออกไปไกลจากหลักการทางสถิติมาก เขาชี้ให้ชาวญี่ปุ่นปรับปรุงวิธีการแก้ไขปัญหาอย่างเป็นระบบ ซึ่งต่อมาได้กลายเป็นวงจรของ Deming หรือ (Plan, Do, Check and Action)
PDCA เป็นแนวคิดหนึ่ง ที่ไม่ได้ให้ความสำคัญเพียงแค่การวางแผน แต่แนวคิดนี้เน้นให้การดำเนินงานเป็นไปอย่างมีระบบ โดยมีเป้าหมายให้เกิดการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง แนวคิด PDCA ได้รับการพัฒนาขึ้นเป็นครั้งแรกโดย Walter Shewhart ซึ่งถือเป็นผู้บุกเบิกการใช้สถิติสำหรับวงการอุตสาหกรรม และต่อมาวงจร PDCA ได้เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลาย มากขึ้น เมื่อปรมาจารย์ด้านการบริหารคุณภาพ อย่าง W.Edwards Deming ได้นำมาเผยแพร่ ให้เป็นเครื่องมือสำหรับการปรับปรุงกระบวนการ วงจรนี้จึงมีอีกชื่อหนึ่งว่า “Deming Cycle”
มาถึงวันนี้คงไม่มีใครบอกว่าไม่รู้จักวงจร PDCA หรือ Deming Cycle โดยเฉพาะในแวดวงของการทำงาน มักจะมีการนำ PDCA เข้ามาประยุกต์ใช้ทั้งการทำงานประจำ และการปรับปรุงงานโครงสร้างของ PDCA ประกอบด้วย1) Plan คือ การวางแผน2) DO คือ การปฏิบัติตามแผน3) Check คือ การตรวจสอบ4) Act คือ การปรับปรุงการดำเนินการอย่างเหมาะสม หรือ การจัดทำมาตรฐานใหม่ ซึ่งถือเป็นพื้นฐานของการยกระดับคุณภาพ ทุกครั้งที่การดำเนินงานตามวงจร PDCA หมุนครบรอบ ก็จะเป็นแรงส่งสำหรับการดำเนินงานในรอบต่อไป และก่อให้เกิดการปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง ดังแสดงใน ภาพที่ 1
Deming Cycleจากหลักการของวงจร PDCA หากพิจารณาเทียบกับหลายๆ เครื่องมือ หรือเทคนิคการปรับปรุงงานต่างๆ ที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็น เครื่องมือด้านคุณภาพอย่าง QCC เครื่องมือที่ต้องใช้การวิเคราะห์ด้วยสถิติขั้นสูง อย่าง Six Sigma หรือแม้แต่เครื่องมือที่เน้นเรื่องของการจัดการความรู้อย่าง KM พบว่า ล้วนมีพื้นฐานของแนวคิด PDCA ทั้งสิ้น ดังแสดงในภาพที่ 2
ตัวอย่างการนำ Deming Cycleไปใช้ ในสถานศึกษา
P –Plan วางแผน ผู้บริหารสถานศึกษา จะต้องเป็น “ผู้นำกิจกรรม” โดยการกำหนดวัตถุประสงค์ และตั้งเป้าหมาย กำหนดขั้นตอนวิธีการ และระยะเวลา การจัดสรรทรัพยากรที่จำเป็นทั้งในด้านบุคคล เครื่องมืองบประมาณ
D- Do ปฏิบัติ โดยการทำความเข้าใจ และลงมือปฏิบัติตามแผน
D- Do ปฏิบัติ โดยการทำความเข้าใจ และลงมือปฏิบัติตามแผน
C คือ Check หรือ การตรวจสอบ เพื่อติดตามความคืบหน้า และดูผลสำเร็จของงานเมื่อเทียบกับแผนที่วางไว้แล้วล่วงหน้าว่า “มีเป้าหมายอย่างไร แค่ไหน” เป้าหมายนี้ต้องมีตัวชี้วัด Indicators ที่เป็นรูปธรรม เข้าใจได้โดยคนทั่วไป เช่น เรียนภาษาอังกฤษ ก็พูดภาษาอังกฤษ
A-Act หรือ Action จากขั้นตอนการตรวจสอบ ก็อาจพบความบกพร่องก็แก้ไขให้ถูกต้อง หากการปฏิบัติเป็นที่น่าพอใจ ก็จัดให้เป็นมาตรฐานเพื่อเป็นแนวทางให้ปฏิบัติต่อไป ผู้อำนวยการเป็นผู้ตรวจสอบในฐานะผู้ร่วมรับผิด
ชอบกับผู้สอน หากพบข้อบกพร่องอย่างใดก็ขอให้แก้ไขให้ถูกต้อง
อ้างอิง:
สุทัศน์ เอกา
http://kruthai40.ning.com/profiles/blogs/21-3
สุธาสินี โพธิจันทร์
https://www2.mtec.or.th/th/e-magazine/
http://adisony.blogspot.com/2012/10/edward-deming.html
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น